นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้มาติดต่อบริษัท
หลักการ
บริษัท เทคคอนส์บิส จำกัด ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การอนุมัติเอกสารออนไลน์ และการจัดการเอกสารในรูปแบบของ Paperless ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัท ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความไว้วางใจในการบริหารจัดการที่เชื่อถือได้ โดยนโยบายนี้ อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ผู้มาติดต่อบริษัท หรือเยี่ยมชมบริษัท ผู้ตรวจสอบภายนอก เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นต้น จึงจัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัทให้ได้รับทราบ
ขอบเขต
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัท ครอบคลุมการปฏิบัติ และมาตรการจัดการด้านความปลอดภัยของบริษัทเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง วิธีการติดต่อบริษัท ตลอดจนสามารถนำไปปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัทนี้
คำจำกัดความ
บริษัท หมายความว่า บริษัท เทคคอนส์บิส จำกัด
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อมูลที่สามารถระบุ หรืออาจจะระบุตัวบุคคลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ประมวลผล หมายความว่า การปฏิบัติการ หรือส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการซึ่งได้กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีอัตโนมัติหรือไม่ ได้แก่ การเก็บรวบรวม การแก้ไข การบันทึก การจัดเรียบเรียง การเก็บรักษา การเรียกดู การนำกลับมาใช้ใหม่ การพิมพ์ การทำให้เข้าถึง การส่ง การจัดวางให้ถูกตำแหน่ง การจำกัด การลบ การทำลาย รวมถึงการจัดทำ การเปิดเผยและรายงานสถิติ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้ให้หมายถึงผู้มาติดต่อบริษัท
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากการบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) , การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้แจ้งความประสงค์มายังบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาติดต่อบริษัทที่ถูกเก็บรวบรวมและอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัทนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัทดังนี้
รายละเอียดข้อมูล | วัตถุประสงค์ | ฐานการประมวลผล | ระยะเวลา | ฐานการประมวลผล | บริษัท/องค์กรที่รับข้อมูล |
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน ได้แก่ คำนำหน้า, ชื่อ- นามสกุล(ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) , ลายมือชื่อ,หมายเลขโทรศัพท์ ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่งผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) , วันที่มาติดต่อ,เวลาเข้า-ออก | -เพื่อการกำกับตรวจสอบ หรือการควบคุม และการรักษาความปลอดภัย -เพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย หรือการ ใช้สิทธิเรียกร้อง ทางกฎหมาย | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) | ไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ ไม่เกิน 2 ปี นับจากวัน ที่มีการบันทึกข้อมูล | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) | ไม่เปิดเผย |
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และบันทึกเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
1. ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่ผู้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
2. เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้มาติดต่อบริษัทสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้
1. สิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบ โดยได้รับการแจ้งเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล วิธีการเก็บรวบรวม บุคคลที่จะได้รับข้อมูล เหตุผลและระยะเวลาที่จัดเก็บ ช่องทางการติดต่อบริษัท
2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
3. สิทธิในการขอรับ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปได้ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ
4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิขอให้บริษัทดําเนินการลบหรือทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยการใช้สิทธิดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
6. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
7. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากผู้มาติดต่อบริษัทเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้องไม่เป็นเป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ครบถ้วน ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
8. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ผู้มาติดต่อบริษัทมีสิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ผู้มาติดต่อบริษัทได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. สิทธิในการตรวจสอบและยื่นข้อร้องเรียน หรือตรวจสอบกรณีข้อมูลรั่วไหล หรือมีการใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ในการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทอาจปฎิเสธคำขอใช้สิทธิตามเหตุผลที่กฎหมายกำหนด หรือเหตุผลอื่นที่จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ หากท่านไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่บริษัทชี้แจง ท่านสามารถร้องเรียนไปยังสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของผู้มาติดต่อบริษัทในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มาติดต่อบริษัทสามารถแจ้งความประสงค์โดยผู้มาติดต่อบริษัทจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นเดียวกัน โดยให้ใช้แบบฟอร์มใบขออนุญาตเข้าพื้นที่ทำงาน (F-IT-017)
การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดําเนินการหรือชี้แจงภายใน 30 วัน หรือไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้มาติดต่อบริษัทในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ผู้มาติดต่อบริษัทขอให้บริษัท ลบ ทําลาย จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระงับการใช้ชั่วคราว แปลงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้มาติดต่อบริษัทได้ก่อนระยะเวลาการจัดเก็บได้ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและจําเป็นต่อการเข้าดําเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
มาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ โดยการกำหนดมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการ วิธีปฏิบัติและสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรตระหนักรู้ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบุคลากรและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเหมาะสม
การพัฒนาและการคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งให้ความรู้และฝึกอบรมให้แก่บุคลากร พนักงาน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทกำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทอย่างสม่ำเสมอ รวมถึง ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ขอบเขตการให้บริการ สัญญา และนโยบาย ตลอดจนบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ประกาศใช้อย่างเคร่งครัด
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทแก่บุคคลเท่าที่เกี่ยวข้องและจำเป็นตามภาระหน้าที่ หรือตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ผู้รับผิดชอบงานด้านความปลอดภัยของบริษัท และหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการกำกับดูแลเฉพาะกรณีที่ได้รับการร้องขอให้มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัย
ระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเอกสาร Visitor Log Report สำหรับการลงทะเบียน และเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรายงานการประชุมและภาพเคลื่อนไหวจากระบบกล้องวงจรปิด โดยจัดเก็บตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้บริษัทจัดเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง สัญญา และนโยบายอันชอบด้วยกฎหมาย หรือยังมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจต้องเก็บรวบรวมรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ ได้แก่ วัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย และบทบัญญัติของกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายภายในอายุความทางกฎหมายแล้วแต่ระยะเวลาใดจะนานกว่ากัน
การติดต่อบริษัท
ผู้มาติดต่อบริษัทสามารถติดต่อกับหน่วยงานทรัพยากรบุคคล หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ในกรณีที่มีข้อสงสัย หรือขอใช้สิทธิได้ที่
บริษัท เทคคอนส์บิส จำกัด
ที่อยู่: 163 ไทยสมุทร ชั้น 17 ยูนิต 17GH ถ สุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เว็บไซต์ : https://www.wolftcb.com
การทบทวน และปรับปรุงนโยบาย
บริษัทอาจมีการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อบริษัทนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลและเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีสาระสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะแจ้งให้ทราบถึง การแก้ไข เปลี่ยนแปลงที่สำคัญใดๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท https://www.wolftcb.com หรือช่องทางที่เหมาะสม
ดาวน์โหลดเอกสาร. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สาหรับผู้มาติดต่อบริษัท