พี่รุ่นใหญ่! น้องไฟแรง! ต่าง Gen ยังไงให้เวิร์ค ในองค์กร 4.0
ในยุค 4.0 แบบนี้ เรื่อง Generation หรือช่วงวัยที่ต่างกัน ถูกหยิบยกมาพูดถึง มาวิเคราะห์มากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นของการทำงาน เพราะทุกวันนี้หลายๆ องค์กรมีส่วนผสมของพนักงานหลาย Generation ที่มีความคิด ทัศนคติ ค่านิยมที่แตกต่างกันออกไปจนทำให้บ่อยครั้ง อาจเป็นปัญหาในการทำงานขึ้นมาได้แต่ก็มีหลายๆ องค์กร ใช้ความแตกต่างนี้ให้เกิดผลดีขึ้นมาอย่างน่าสนใจ
วันนี้ ‘WOLF’ ในฐานะองค์กรหนึ่งที่มีส่วนผสมของคนทำงานในหลายช่วงวัยขอหยิบแนวคิดพื้นฐานง่ายๆ ที่เรายึดใช้ และผู้นำองค์กรยุคใหม่สามารถเอาไปประยุกต์ได้มาแชร์ให้เห็นกันว่า เราสามารถดีลกับความแตกต่างของวัย ให้การทำงานลื่นไหลได้จริงๆ
– เปิดใจ พร้อมรู้จักและเข้าใจความต่าง
.
ก่อนจะจับทุก Gen หันหน้ามาทำงานด้วยกัน อันดับแรกที่สำคัญคือการต้องทำความรู้จักความแตกต่างเสียก่อนพนักงานทุกคนต้องเปิดใจแบบไร้อคติ รู้ว่าข้อดีและข้อเสียของ Gen ของตัวเองเป็นอย่างไรและเรียนรู้ Gen อื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน เช่น Gen Baby Boomer การทำงานจะต้องมีระบบ ระเบียบ แบบแผนเป๊ะๆ ไม่ยืดหยุ่นในขณะที่ Gen Z ชอบการทำงานที่ยืดหยุ่น พึ่งพาเทคโนโลยี มีอิสระ ไม่เน้นระบบระเบียบมากนักคาแร็คเตอร์ของทุก Gen จึงเป็นสิ่งที่ทั้งพนักงานและผู้บริหารควรรู้จักเพราะนี้คือสิ่งแรกที่สำคัญก่อนจะมูฟออนไปขั้นตอนต่อไปได้
– สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยน
.
พื้นที่แลกเปลี่ยนนี้คือพื้นที่ที่ผู้บริการต้องเปิดโอกาสให้คนต่าง Gen ได้มาทำงานด้วยกันโดยชี้ให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงข้อดีของแต่ละ Gen ที่จะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน ช่วยกันผลักดันให้ผลงานออกมาดี มีประสิทธิภาพ กระบวนการนี้จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะที่ต่างกันทำให้แต่ละคนมีความสามารถเพิ่มขึ้นด้วย Gen รุ่นพี่อาจะะได้ทักษะด้านเทคโนโลยีมากขึ้น Gen รุ่นน้องก็อาจจะได้แนวคิดที่เป็นระบบระเบียบในการทำงานซึ่งสิ่งเหล่านี้จะพัฒนาทั้งตัวบุคลากร และทำให้ให้องค์กรเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
– อย่ามองว่าความต่างเป็นปัญหา
.
ความแตกต่างไม่ใช้ปัญหาที่ต้องแก้ไขเพราะการพยายามเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นสิ่งที่เหมือนกันมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ แต่ควรมองว่าความแตกต่างเหล่านี้คือจิ๊กซอว์ที่ต่างกันไป ซึ่งผู้บริหารต้องทำให้จิ๊กซอว์แต่ละชิ้นอยู่ถูกที่ถูกทาง และแมทช์กับจิ๊กซอว์ส่วนอื่นอย่างพอดีและประกอบเป็นรูปภาพที่สวยงามและแข็งแรงทั้ง 360 องศา หากมองว่าความแตกต่างนั้นเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขมีแนวโน้มว่าบรรยาการในการบริหารและดำเนินงานจะเป็นอย่างไม่ Positiven ซึ่งจะทำให้ความคิดสร้างสรรค์ แรงผลักดัน หรือบรรยาการของการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นได้ยาก
– เคารพและเรียนรู้
.
สุดท้ายแล้ว เมื่อทุกคน ทุก Gen ต้องหันหน้ามาทำงานด้วยกันสิ่งสำคัญที่ต้องยึดมั่นให้แข็งแรง คือการเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะยึดโยงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขององค์กรได้สามารถลดปัญหาในการทำงานลงได้และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรรักษาไว้ คือการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จาก Gen ที่แตกต่างอยู่เสมอเพราะการเรียนรู้และพัฒนาจากความแตกต่าง สามารถทำได้ตลอดไป ไม่ได้มีเวลามาเป็นเครื่องจำกัด
ถึงจะต่าง Generation กัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำงานร่วมกันไม่ได้ ถ้าได้ลองรู้จักและเปิดใจ จะเห็นว่าทุกวัยมีข้อดี ถ้าผู้บริหารองค์กรยุคใหม่ลองเริ่มมองมุมต่างๆ เหล่านี้รับรองว่าบรรยากาศในการทำงานจะแฮปปี้ และส่งผลดีต่อธุรกิจด้วย