เปิดโลกหลังจบ COVID-19 คนทำงานต้องปรับตัวยังไง? อะไรจะกลายเป็น New Normal?
เคยมีคนพูดไว้ว่าหลังจากนี้ โลกของเราจะกลายเป็น ‘ยุคหลัง COVID-19’ และ ‘ยุคก่อน COVID-19’ คงจะคล้าย ๆ กับการเรียนประวัติศาสตร์ ที่เราเคยเรียนกันมาว่าโลกเราถูกแบ่งเป็น 2 ยุค คือ ‘ยุคก่อนประวัติศาสตร์’ และ ‘ยุคประวัติศาสตร์’ ที่ถูกแบ่งจากการที่มนุษย์เริ่มมีการใช้ตัวอักษรเพื่อจดบันทึก
ครั้งนี้ก็คงจะถูกแบ่งยุคด้วยโรคระบาด COVID-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของมวลมนุษยชาติไปอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้น หลังจากที่ COVID-19 จบลง คงต้องมาดูกันว่าพฤติกรรมมนุษย์เราจะเปลี่ยนไปอย่างไร ในแง่ไหนบ้าง และอะไรจะกลายเป็น ’New Normal’ หรือ ‘ความปกติใหม่’ ที่จะกลายเป็นแนวทางการใช้ชีวิตของคนทั้งโลกหลังจากนี้
วันนี้ WOLF จะมาแชร์ 4 มิติใหญ่ๆ ที่มีแนวโน้มกลายเป็น ’New Normal’ ที่จะกระทบทั้งในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป และในโลกของคนทำงานด้วย
– Healthy First
.
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดใน ‘ยุคหลังโควิต’ น่าจะเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพเป็นอันดับแรก เพราะได้เรียนรู้จาก COVID-19 แล้วว่า สุดท้ายคนเราก็ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการที่มีสุขภาพแข็งแรงและการได้มีชีวิตอยู่
จากที่เราเคยซื้ออาหารทานเพราะความอร่อย ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นการทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
การช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับสุขภาพก็มีแนวโน้มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เจลล้างมือ ฯลฯ จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่สิ่งจำเป็นหรือสิ่งสำคัญที่คนเราจะเลือกซื้อสักเท่าไหร่ ก็จะกลายมาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ
– Everything at Home
.
COVID-19 ทำให้หลายบริษัทต้องออกนโยบายให้ทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ถือว่าเป็นการปรับไลฟ์สไตล์การทำงานแบบแทบไม่ทันตั้งตัว และดูเหมือนว่าจะต้องพยายามปรับตัวให้ได้เสียด้วย เพราะน่าจะต้อง Work From Home กันยาว ๆ เนื่องจากในอนาคต Work From Home มีแนวโน้มจะกลายเป็นเทรนด์ที่นิยมทั่วโลก องค์กรธุรกิจชั้นนำนิยมใช้วิธีนี้มาก่อน COVID-19 เสียอีก ด้วยข้อดีหลายประการ ทั้งในแง่ประสิทธิภาพในการทำงาน ในแง่ภาพลักษณ์องค์กร หรือจะเป็นในแง่การลดต้นทุน
ถ้าเราจะต้อง Work From Home กันในลักษณะ ‘New Normal’ เราก็จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือที่ซัพพอร์ทการทำงานที่บ้านให้ Effective อย่างในตอนนี้ คนทำงานส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้จักเครื่องมืออย่าง Zoom, Microsoft Team หรือ Skype ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำงานและการประชุมบนออนไลน์สะดวกสบายมากขึ้น
แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก ‘ระบบอนุมัติเอกสารออนไลน์’ อย่าง ‘WOLF Approve’ ที่จะเข้ามาซัพพอร์ทการทำงานในโลกแห่ง ’New Normal’ ให้กับทำงานยุคใหม่สามารถทำงานจากที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้บนระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะจัดเก็บและค้นหาเอกสาร การจัดซื้อจัดจ้าง การลางาน การยื่นอนุมัติต่างๆ ให้กับผู้บริหาร ก็สามารถทำได้โดยไร้กระดาษ (Paperless) และไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่ง ‘ระบบอนุมัติเอกสารออนไลน์’ อย่าง ‘WOLF Approve’ นี้ ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำในไทยมากมาย และกำลังได้รับความสนใจจากองค์กรยุคใหม่อย่าง SME ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับองค์กรในโลก ‘ยุคหลัง COVID-19’ ทีเดียว
นอกจากในมิติของการทำงานแล้ว Everything at Home ยังรวมไปถึงการออกกำลังกายที่คนสามารถทำได้ที่บ้านโดยหลีกเลี่ยงการเข้าฟิตเนส รวมไปถึงการช้อปปิ้งที่สามารถซื้อของออนไลน์ได้ที่บ้านแทนการไปเดินห้าง รวมไปถึงการซื้ออาหารจากบริการเดลิเวอรี่แทนการเดินไปตลาดหน้าปากซอย และยังรวมไปถึงอีกหลายกิจกรรมที่คนเราจะสามารถทำที่บ้านได้
– Social Distant
.
Social Distancing หรือการรักษาระยะห่างทางสังคม ดูเหมือนจะไม่ใช่แนวทางปฏิบัติเพียงชั่วคราวที่คนเราจะต้องปฏิบัติในช่วงนี้เท่านั้น เพราะคนเราจะเคยชินกับการอยู่ห่างจากคนอื่น ไม่สัมผัส ไม่ใช้ชีวิตคลุกคลีกัน หรือถ้าจะเรียกว่าฝังใจ ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะฉะนั้นกลยุทธ์ทางธุรกิจก็จะเป็นจะต้องออกแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนี้ เช่น ร้านอาหารต้องมีระยะห่างระหว่างโต๊ะลูกค้า หรือการชำระเงินด้วยสัมผัสเงินสด ก็อาจจะต้องเป็นระบบ Cashless แทน เป็นต้น
– Technology is a Life
.
เราอยู่ในยุคของการเติบโตทางเทคโนโลยีกันมานานพอสมควร จนเราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว แต่ในโลกแห่ง ’New Normal’ หลังจากนี้ ที่เราเคยมองว่าเทคโนโลยีคือชีวิตเราแล้ว มันจะซึมซาบเข้ามาเป็นชีวิตของเรามากขึ้นกว่าที่เราเคยคิด คนที่ไม่เคยสนใจหรือไม่เคยใช้เทคโนโลยีก็จะหันมาใช้ เลือกที่จะพึ่งพาเทคโนโลยีมากกว่าระบบ Manual เลือกพึ่งพาระบบออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการพบปะผู้คนซึ่งอาจเป็นพาหะของโรคภัยต่าง ๆ
เช่น การทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Internet Banking การชำระค่ารถไฟฟ้าผ่านการตัดบัตรเครดิตมากกว่าไปยืนต่อแถวชำระด้วยเงินสด รวมถึงการสั่งอาหารหรือการช้อปปิ้งผ่านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วย
องค์กรธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจเรื่องเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้บริโภคด้วย
เชื่อว่า ’New Normal’ ครั้งนี้ จะเป็นปรากฏการณ์ที่ทั้งโลกจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมกัน ส่วนในแง่คนทำงานและธุรกิจ ใครที่เข้าใจและปรับตัวได้ก่อน ก็ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ก่อนอย่างแน่นอน